[Review] ASUS G53S

[Review] ASUS G53S

กลับมาอีกครั้งกับการรีวิวโน๊ตบุ๊คของ N4G นะครับ ในครั้งนี้เราก็มีตัวเด็ดมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน จะเป็นตัวไหน เราไปดูกันเลยครับ

New_Specification

 

 

spec

ถ้าดูจากสเปกของ ASUS G53S เครื่องนี้แล้วละก็ เรียกได้ว่าเป็นเกือบที่สุดของโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมในขณะนี้ (ในประเทศไทย) เลยทีเดียว เนื่องด้วยสเปกระดับสูงอย่าง Intel Core i7-2630QM และที่สำคัญเลยคือการ์ดจอที่เป็นตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 560M ที่ให้แรมแบบ GDDR5 มาถึง 2 GB ทำให้มันเป็นการ์ดจอที่มีประสิทธิภาพสูงมากในตลาดเมืองไทยในขณะนี้เลย นอกจากนี้แรมก็ยังให้มาถึง 8 GB ซึ่ง ASUS G53S นั้นมีสล็อตแรมให้ถึง 4 แถว (แต่มีหนึ่งแถวซ่อนอยู่ และยากต่อการแกะเพื่อทำการเปลี่ยน) ส่วนจอก็มาในขนาด 15.6 นิ้ว แต่มีความคมชัดระดับ Full HD จะมาตกม้าตายนิดนึงคือ เครื่องที่เราได้รับมาทดสอบนั้นดันให้ HDD ความเร็วรอบ 5400 RPM มาเท่านั้น อาจจะทำให้ไม่สามารถเรียกประสิทธิภาพออกมาได้อย่างเต็มที่นัก แต่แค่นี้ก็เพียงพอกับการเป็นเบอร์หนึ่งแล้วละครับ

New_Product

 

 

IMG_8570IMG_8571

IMG_9518ตัวเครื่องมาในโทนสีดำที่ไม่ถึงกับดำสนิท แต่ก็ไม่เทานักครับ ซึ่งวัสดุที่ใช้นั้นคือพลาสติกเป็นหลัก โดยมียางแบบด้านคลุมอยู่อีกทีทั้งตัวเครื่อง (เว้นแต่ส่วนใต้จอลงมาในรูปที่สอง) ซึ่งทำให้เกิดรอยได้ง่าย เช่น รอยขีดข่วน โดยเฉพาะรอยนิ้วมือที่สามารถมองเห็นได้ชัดเลยทีเดียว อาจจะต้องหมั่นหาน้ำยามาทำความสะอาดซักหน่อยละนะครับ ส่วนเรื่องของความแข็งแรงนั้น จัดได้ว่าหายห่วงเลย เพราะมันทั้งแข็งแรงและหนักมากๆ

IMG_8572

โลโก้ ASUS ที่ภายใต้นั้นซ่อนหลอดไฟเอาไว้ เมื่อเครื่องเปิดอยู่ โลโก้ก็จะสว่างขึ้นมา และยังมีตาประทับ Republic of Gamer สลักติดอยู่อีกด้วย แต่อาจจะสังเกตได้ยากเพราะดันไม่มีสีอื่นแต้มอยู่เลย และยิ่งถ้ามองไกลๆก็ไม่ต้องห่วงครับ?ไม่เห็นแน่นอน

IMG_8575IMG_9485

 

จอสามารถกางออกมาได้ไม่เกิน 120 องศาเท่านั้นเอง ส่วนความหนาของจอนั้น ย่อมจะต้องหนาแน่นอน เพราะมันรองรับการแสดงผล 3D แบบไม่ต้องใช้แว่นด้วยครับ ซึ่งเทคนิคการทำ ถ้าจะให้อธิบายแบบคร่าวๆก็คือการ์ดจอจะสร้างภาพเดียวกันขึ้นมา 2 ชุด แต่ละชุดก็จะแสดงอยู่บนจอ LCD ชั้นใครชั้นมัน โดยภาพนั้นจะมึความเหลื่อมกัน และยังมี polarizing filter ช่วยในการแสดงผล แต่ทั้งนี้ก็แลกมาด้วยความกว้างของมุมมองภาพ 3D ก็จะแคบลงไปด้วย น่าเสียดายที่คิวในการทดสอบเครื่องของเราแน่นเอี๊ยด เลยทำให้ไม่มีเวลาทดสอบในด้านนี้แบบเข้มข้นและจริงจังครับ แต่ก็ยืนยันได้ว่าภาพมีการเหลื่อมๆแบบภาพ 3D ในโรงภาพยนตร์ 3D เลยทีเดียวIMG_9506IMG_9486

ตัวเครื่องภายในก็มีสีเดียวกับฝาหลังเลย แต่จะมีในส่วนของแท่นรองมือเท่านั้นที่มีแถบยางแบบด้านปิดทับอยู่ ส่วนที่เหลือนั้นเป็นพลาสติกสีดำล้วนๆเลยครับ ดูแล้วให้ความรู้สึกขรึมๆ หนักแน่น ดูสุภาพแต่แฝงไปด้วยเล่ห์ร้ายภายในอย่างไรอย่างนั้นเลย

IMG_9491

ฝั่งซ้ายเหนือคีย์บอร์ดมีปุ่มลัดให้สามปุ่ม เรียงจากซ้ายไปขวาคือ ปุ่มเปิด/ปิดไฟ LED ของคีย์บอร์ด, ปุ่มเรียกใช้งาน Express Gate (เมื่อปิดเครื่องอยู่) และเรียกใช้งาน turbo mode/กลับเป็น mode ปกติ (เมื่อเปิดเครื่องอยู่) ส่วนปุ่มสุดท้ายคือปุ่มเปิด/ปิดการแสดงผล 3D (จะทำงานเมื่อเปิดโปรแกรมหรือเกมที่รองรับ 3D) หรือเปลี่ยนโหมดสีของภาพที่เรียกกันว่า Splendid ของ ASUS นั่นเอง (เมื่อโปรแกรมหรือเกมนั้นไม่รองรับ 3D)IMG_9492

ฝั่งขวานั้นเป็นที่ตั้งของปุ่มเปิด/ปิดเครื่องครับ ใกล้ๆกันนั้นก็เป็นตำแหน่งไฟแสดงการทำงานของปุ่ม numlock และ caps lock ส่วนแผงตะแกรงสีดำ ภายใต้นั้นจะมีลำโพงซ่อนอยู่ แต่ตำแหน่งเมื่อลองฟังดูแล้ว เหมือนว่าลำโพงจะถูกฝังอยู่บริเวณกึ่งกลางใต้จอ ตรงแถวโลโก้ ASUS เลยครับ ทิศทางในการปล่อยเสียงก็ขึ้นมาตรงๆเลย ทำให้เสียงที่ได้นั้นดัง ชัดเจนใช้ได้ แต่จุดที่น่าแปลกคือ ASUS G53S เครื่องนี้ดันไม่มี subwoofer มาให้ด้วย นับว่าน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ถ้ามีนะ รับรองว่ากระหึ่มแน่นอน

IMG_9503IMG_9505

ที่รองมือฝั่งขวานั้นมีสติ๊กเกอร์บอกสเปกเครื่องติดอยู่อย่างชัดเจน ถัดไปอีกนิดก็จะพบกับโลโก้ Republic of Gamer สกรีนอยู่ข้างๆกัน

IMG_9495

คีย์บอร์ดที่ติดตั้งมาก็มีการจัดวางปุ่มแบบ chiclet โดยมีการยกระดับให้เอียงสูงขึ้นมา 5 องศา ทำให้สามารถใช้งานได้งาน และยิ่งมีแท่นรองมือเป็นยางอีก ทำให้การพิมพ์แลดูสะดวกสบายเอามากๆครับ ส่วนปุ่ม numpad ก็มีมาให้เช่นกัน และในภาพนี้ได้ทำการเปิดไฟ LED ที่คีย์บอร์ดด้วยIMG_9500

เมื่ออยู่ในห้องมืด ก็สามารถมองเห็นปุ่มได้อย่างชัดเจน แถมยังสามารถปรับระดับความสว่างของไฟได้ด้วยการกดปุ่ม fn+F3 เพื่อลด และ fn+F4 เพื่อเพิ่มความสว่าง

IMG_9499

ทางฝั่ง numpad ก็เช่นเดียวกันครับ สามารถมองเห็นและใช้งานตัวเลขได้อย่างสบายๆเลย

IMG_9502

ทัชแพดนั้นมีผิวสัมผัสที่ลื่น แต่ก็สามารถใช้งานได้ดีพอตัว ปุ่มคลิกซ้าย/ขวาเป็นแบบแยกชิ้นกัน เมื่อกดลงไปก็มีเสียงพอสมควร

IMG_9520IMG_9521

ฝั่งซ้ายเป็นรูปแสดงน้ำหนักของตัวเครื่อง+แบตเตอรี่ ซึ่งแค่นั้นก็จัดว่าหนักแล้ว แต่พอเจอน้ำหนักเมื่อรวม adapter เข้าไป (รูปฝั่งขวา) ที่หนักร่วม 4.5 กิโลกรัม น่าจะทำให้หลายๆคนตัดสินใจที่จะไม่แบกมันขึ้นหลังแน่ๆ (อย่างน้อยก็ผมและเพื่อนอีกหลายคนล่ะ)IMG_9524

นี่ครับหน้าตาของ adapter ที่หนักเกือบๆ 1 กิโลกรัม เรียกได้ว่าปาใส่หัวคน คนโดนนี่อาจยิ่งกว่าสลบอีกมั้งนี่

IMG_9525

ขนาดเมื่อเทียบกับกล่อง DVD #1

IMG_9526

ขนาดเมื่อเทียบกับกล่อง DVD #2

หน้าต่อไปเราไปเริ่มดูตัวเครื่องภายในกันครับ

Pages: 1 2 3 4

0 Comments

แสดงความคิดเห็น

*ข้อความหรือข้อความที่แสดงในโฟส เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นในระบบโดยอัตโนมัติจากสมาชิก ซึ่งทีมงานไม่ได้มีส่วนหรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ หากพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานเพื่อดำเนินการต่อไป..