ท่ามกลางโปรเจคเกมที่รอคอยให้ผู้คนสมทบทุนอย่างมากมายในเว็บไซต์ Kickstarter นั้นก็ได้มีเกมแอ็คชั่นแฟนตาซีน้องใหม่เกมหนึ่งที่ได้ออกตัวว่าเป็นเกมที่รวมจุดเด่นของ 2 เกมดังระดับตำนานอน่าง Skyrim และ Diablo เข้าไว้ด้วยกันซึ่งตัวเกมน้องใหม่ที่ว่านี้มีชื่อว่า Umbra
ถึงแม้ว่าชื่อเกมจะดูสั้นๆและไม่ติดหูเท่าไหร่แต่ฟีเจอร์ต่างๆภายในเกมที่ผู้พัฒนา SolarFall Games นำเสนอมานั้นจัดว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียวด้วยตัวจุดเด่นของเกมที่เป็น RPG Openworld ที่ผู้เล่นจะสามารถทำอะไรก็ได้บนโลกของ Umbra และการเล่นยังเป็นรูปแบบเดินหน้าฆ่ามอนสเตอร์หรือที่เรียกว่า Hack ‘n’ Slash รวมไปถึงอินเตอร์เฟสทั้งหลอดเลือด หลอดพลังเวทย์นั้นและมุมมองการเล่นก็แทบจะถอดแบบมาจาก Diablo ยังไงยังงั้นแต่ก็ใช่ว่าจะเหมือนไปซะทุกอย่าง เกม Umbra ยังมีฟีเจอร์ต่างๆที่สำคัญดังนี้ครับ
- แนวเกมที่เปิดกว้างให้อิสระแก่ผู้เล่นแบบ Openworld ที่พร้อมให้ผู้เล่นเข้าไปสำรวจดินแดนอันลี้ลับ
- รางวัลสุดพิเศษภายในเกมที่เป็นความสามารถสุดเจ๋งของตัวละครหากผู้เล่นเดินสำรวจระหว่างทาง
- ตัวละครเล่นฟรีไม่มีจำกัดอาชีพและทุกอาชีพมีความสมดุลทั้งหมด
- ระบบ Apocalyptic Form ที่ผู้เล่นสามารถแปลงร่างเป็นปีศาจร้ายอันแข็งแกร่งและมีสกิลความสามารถเสริมเข้ามาอีกมากมาย
- ไอเทมและชุดเกราะที่ดรอปจากมอนสเตอร์มีความหลากหลายไม่ซ้ำหน้า
- หากสวมใส่ชุดระดับหายาก รายละเอียดของอาวุธกับโล่ก็จะเปลี่ยนรูปลักษณ์ตามไปด้วย
- ระบบ Craft อาวุธและชุดเกราะใหม่ๆที่แข็งแกร่งทรงพลัง
- ระบบ Housing ที่ผู้เล่นสามารถสร้างบ้านของตนเองเพื่อตกแต่งอาวุธและชุดเกราะของตนเอง
- เนื้อเรื่องสุดเข้มข้นพร้อมกับบทสรุปของเกมที่เหนือจินตนาการ
- ภูมิประเทศที่มีความหลากหลายสมจริงด้วยพลังขับเคลื่อนของ CRYENGINE
- Kythera AI system ปัญญาประดิษฐ์เพียงหนึ่งเดียวของเกมที่เป็นทั้งตัวช่วยและไกด์นำทาง
“Apocalyptic Form ที่แปลงร่างเป็นปีศาจสุดโหด”
จะเห็นว่าระบบที่เป็นไฮไลท์ที่สุดคงจะเป็นระบบ Housing ที่เป็นการสร้างบ้านและสามารถปรับแต่งอาวุธได้ตามใจชอบโดยมีรายละเอียดของชิ้นส่วนอาวุธตั้งแต่ด้ามจับไปจนถึงใบดาบเลยทีเดียว
ทั้งนี้ทางผู้พัฒนาต้องการเงินสมทบทุนเป็นจำนวน $225,000 เหรียญหรือประมาณ 7,500,000 บาท ตัวเกมจะลงในเวอร์ชั่น PC กับ Linux เท่านั้นโดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Kickstarter และสามารถเข้าไปโหวตทาง Steam Greenlight ได้อีกด้วยครับ
ที่มา : steamed.kotaku
0 Comments