HyperX CLOUD ALPHA S หูฟังสวมสบาย เสียงจัดจ้าน ระบบเสียงรอบทิศทาง

HyperX CLOUD ALPHA S หูฟังสวมสบาย เสียงจัดจ้าน ระบบเสียงรอบทิศทาง

HyperX CLOUD ALPHA S จัดว่าเป็นหูฟังในอีกซีรีส์หนึ่งของค่ายนี้ ที่เรียกว่าเป็นหูฟังเกมมิ่งสเปคจัดจ้าน ในราคากลางๆ คือประมาณ 3,990 บาท เท่านั้น แต่จัดไดรเวอร์ตัวใหญ่ 50mm และระบบเสียง 7.1-channel รวมไปถึงดีไซน์ที่ยังคงกลิ่นอายของ Cloud ในรุ่นใหญ่ไว้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะครอบหูฟังเมมโมรีโฟม อันเป็นเอกลักษณ์ สวมใส่สบาย เอาใจคอเกมที่เน้นเล่นนานเป็นที่สุด รวมถึงการใช้งานเอนเตอร์เทนเมนต์ และสายปาร์ตี้ที่เล่นเกมกันเป็นทีม ไม่ว่าจะเป็น PUBG หรือ COD: Warzone ก็ตาม

มาดูกันที่การออกแบบ Cloud Alpha S เป็นหูฟังพี่รอง ที่ออกมาสำหรับกลุ่มเกมเมอร์และคอเกม ที่เริ่มหันมาเล่นกันแบบจริงจัง และมองหาหูฟังที่เพิ่มเติมฟีเจอร์ในการเล่นสำคัญอย่างระบบเสียงรอบทิศทาง รวมถึงความ Comfortable ที่ต้องสวมใส่สบาย เมื่อใช้เล่นเกมแบบนานๆ ทาง HyperX จึงเน้นที่ขนาดกำลังพอเหมาะ ครอบหูได้เต็มใบแนว และใช้เมมโมรีโฟมหุ้มด้วยวัสดุแบบหนัง เพื่อซัพพอร์ตใบหูและการสวมใส่ที่สบาย แม้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นบ้าง เมื่อเทียบกับ Stinger หรือ Flight เพราะเน้นไปที่การเล่นเกมอย่างจริงจัง แต่ก็ทำน้ำหนักได้ค่อนข้างดี คืออยู่ที่ราว 300g เท่านั้นเอง นอกจากนี้ยังใส่ไดรเวอร์ระดับ 50mm มาให้ สเตจเสียงที่ค่อนข้างกว้าง และมีไมโครโฟนแบบตัดเสียงรบกวน เพื่อเกมเมอร์ที่ชอบการเล่นแบบเป็นทีม ให้การสื่อสารที่ชัดเจน ไมค์เป็นแบบถอดได้ ปรับโค้งงอได้ตามต้องการ มาพร้อมกับจุดสำคัญคือ การใช้ไดรเวอร์แบบ Dual chamber ที่เป็นเอกลักษณ์ของหูฟังรุ่นใหม่จาก HyperX รวมถึงแยกตัวปรับเสียงออกมาต่างหาก ให้ควบคุมการทำงานได้ง่ายขึ้น รองรับการปรับเสียง Surround sound ได้จากตัวควบคุมบนสาย และบนหูฟังในการปรับเสียงเบสได้แบบแน่นๆ ไม่ต้องไปปรับในซอฟต์แวร์หรือเกมแต่อย่างใด

Specification

  • ไดร์เวอร์: 50 มม. แบบไดนามิคพร้อมแม่เหล็กนีโอดีเนียม
  • ประเภท: แบบครอบเต็ม ปิดด้านหลัง
  • ความถี่: 13Hz – 27kHz
  • ความต้านทาน: 65 Ω
  • ระดับแรงดันเสียง: 99dBSPL/mW ที่ 1kHz
  • T.H.D.: ≤ 1%
  • น้ำหนัก: 310 ก.
  • น้ำหนักพร้อมไมค์: 321 ก.
  • ความยาวสาย: 1 ม.
  • ประเภทการเชื่อมต่อ: หัวเสียบ 3.5 มม. (4 ตอน)

ไมโครโฟน

  • ส่วนประกอบ: ไมโครโฟนอีเล็คเตรทคอนเดนเซอร์
  • รูปแบบขั้ว: สองทิศทาง พร้อมระบบตัดสัญญาณรบกวน
  • ความถี่: 50Hz – 18kHz
  • ความไว: -38dBV (0dB=1V/Pa ที่ 1kHz)

 

รูปลักษณ์และการออกแบบ

หน้ากล่องของ HyperX Cloud Alpha S นี้ มาในโทนสีขาว-แดง อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในวันนี้ทาง HyperX เลือกใช้สีแบบนี้ไปในเกมมิ่งเกียร์ของตน หน้ากล่องมาพร้อมกราฟิกรูปหูฟัง และฟีเจอร์เล็กน้อยที่แสดงรายละเอียดให้เห็นคร่าวๆ

ด้านข้างเป็นรายละเอียดของอุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่อง บอกเลยว่าจัดเต็ม สมกับเป็นหูฟังสำหรับเกมมิ่งโดยแท้ ไม่ว่าจะเป็น ไมค์แยก หรือจะเป็น USB controller Mixer และยังมีถุงผ้าสีดำ รวมถึง ครอบหูฟังที่เป็นแบบผ้า

เปิดกล่องออกมา ก็จะเห็นสิ่งที่อยู่ภายในกล่องแบบอัดแน่นเลยทีเดียว

เอกสารประกอบการใช้งาน และคู่มือ แนะนำว่าใครที่เริ่มต้นกับหูฟัง HyperX ให้ลองดูเอกสารประกอบ จะช่วยให้ใช้งานได้สนุกมากขึ้น

ตัวควบคุม USB Controller Mixer ที่อยู่ในซองผ้าสีดำ สำหรับใช้ต่อพ่วงกับหูฟัง ในการเพิ่มอรรถรสในด้านเสียงแบบ Surround sound 7.1 channel

เมื่อแกะกล่องดูด้านใน ก็จะมีหูฟัง HyperX Cloud Alpha S เรียกว่าจัดมาในกล่องพลาสติกใสด้านนอก ป้องกันการกระแทกมาเป็นอย่างดี

ไมโครโฟนแบบถอดได้ ความยาวพอประมาณ มีหุ้มฟองน้ำที่ไมค์มาเป็นอย่างดี และก้านสามารถปรับงอได้ตามสะดวก หรือถ้าจะไม่ใช้จริงๆ กลัวเกะกะ ก็ถอดเก็บได้เลย

ครอบหูฟังตัวหลัก HyperX ให้มาเป็นเมมโมรีโฟมหุ้มวัสดุแบบหนัง ค่อนข้างสบายหูเลยทีเดียว และด้านในยังมีเป็นผ้าบางๆ หุ้มตัวไดรเวอร์ขนาด 50mm มาด้วย

ขนาดหูฟังไม่ใหญ่ ไม่เล็กเกินไป ทำมาลงตัวสำหรับคนเอเซีย ด้วยรูปแบบที่เป็นแบบครอบหู จึงลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีทีเดียว จัดได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของทาง HyperX

ช่องที่ใช้สำหรับต่อพ่วงไมโครโฟน จะไม่มีที่ครอบมาให้ สามารถต่อเข้าและถอดออกได้ตลอดเวลา


จะเห็นได้ว่าโครงหูฟัง จะยังคงเป็นเอกลักษณ์ของ Cloud series ด้วยโลหะแข็งแรง เพื่อความทนทาน และครอบหูฟังจะปรับมุมได้เล็กน้อยเท่านั้น

ด้านบนจะเป็นวัสดุแบบหนัง มีโลโก้ HyperX ให้เห็นอย่างชัดเจน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล ซึ่งบางคนชอบเพราะความคลาสสิก แต่บางคนอาจมองว่าดูไม่ทันสมัยเท่าใดนัก ส่วนตัวรู้สึกดูแล้วน่าจะเป็นวัสดุมันเงา คงจะเข้ากับตัวหูฟังมากกว่า

ก้านหูฟังสามารถปรับเลื่อนขึ้น-ลงได้ประมาณ 8 ระดับ ไม่ค่อยบีบแน่นมากนัก จึงเลื่อนขึ้น-ลงได้ขณะที่กำลังใช้งาน แต่แนะนำว่า ปรับให้เหมาะกับศีรษะก่อนจะเล่น ไม่งั้นอาจทำให้หัวนร้อนได้

มาในจุดสำคัญของหูฟังรุ่นนี้บ้าง จะเห็นได้ว่า มีปุ่มปรับอยู่บริเวณด้านข้างของหูฟังทั้ง 2 ด้าน สิ่งนี้ใช้ในการปรับเสียงเบส ซึ่งทำได้ถึง 3 ระดับด้วยกัน เพื่อให้ในการปรับอารมณ์ของการใช้งานในแต่ละแบบ เช่น เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลงและอื่นๆ โดยปกติถ้าใช้ทั่วไป สเตปกลางดูจะเหมาะ แต่ถ้าอยากดูหนัง เน้นเสียงแน่นๆ ก็อาจจะปรับสุดได้ ส่วนการใช้งานทั่วไป จะเปิดหรือไม่เปิด ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคนเลย

สำหรับใครที่คิดว่าอยากได้หูฟังดีไซน์ล้ำๆ สีสันจัดจ้าน โครงสร้างหวือหวา Cloud Alpha S รุ่นนี้ อาจจะไม่ใช่คำตอบ แต่ถ้ามองกันที่โครงสร้างที่ใช้ได้ในโอกาสต่างๆ กลางๆ แต่เน้นคุณสมบัติพิเศษ ดูจะให้คุณได้

ตัวหูฟัง Cloud Alpha S เมื่อต่อเข้ากับ USB Controller Mixer รวมแล้วจะค่อนข้างยาวทีเดียว ซึ่งถ้าต่อสายจากหลังเครื่องก็สบายๆ

การดีไซน์แบบ Dual Chamber ด้วยการแยกห้องเสียง ทำให้เสียงเบส กลางและแหลม แยกออกจากกัน เพื่อให้รายละเอียดที่ชัดขึ้น ให้การเล่นเกมดูสมจริง และให้อรรถรสในการดูหนังได้มากขึ้น

มาลองของจริงกัน!

การสวมใส่ทำได้เร็ว เรียกว่าแค่สวมลงไปบนศีรษะ ปรับข้างซ้าย-ขวาเล็กน้อย ก็พร้อมใช้งานแล้ว สำหรับคนที่ผมยาวๆ อาจจะต้องขยับหรือมัดผมไว้บ้างก็ดี เพราะช่วงที่ขยับอาจจะเกี่ยวกับเส้นผมได้เหมือนกัน แต่การขยับซ้าย-ขวาทำได้รวดเร็ว 

เรื่องของขนาดหูฟัง ดูจะเข้ากับหน้าตาและรูปร่างของคนเอเซียในบ้านเราได้ดี แม้จะดูใหญ่ไปบ้างตามสไตล์ของ Headset ที่ครอบหูเต็มไป แต่ก็ไม่ได้เกะกะ และยิ่งทำให้มีความกระชับมากขึ้น ตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ดีทีเดียว ยิ่งถ้าเล่นเกมสไตล์ DBDL หรือแนวหลอนๆ บอกเลยมีสะดุ้งสุดตัว

เรื่องของอารมณ์เสียง เดิมๆ แบบไม่มีปรับแต่งเพิ่มเติมเรื่องของเบสหรือการเล่นในโหมด Surround ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว สำหรับการเล่นเกมทั่วไป แต่ถ้าจะเน้นไปที่การจับทิศทางได้แม่นยำขึ้น บอกเลยว่ากดปุ่ม 7.1 บนตัว Control Mixer จะได้อารมณ์เพิ่มเข้ามาอีกไม่น้อย แต่แนะนำว่า ให้ลดปุ่มเบสบนหูฟังหรือปิด จะช่วยลดอาการเสียงทุ้มที่ไปบังเสียงแหลม ที่เกิดจาก Activity รอบข้างออกไปได้ไม่น้อยทีเดียว

ข้อดีของ USB Mix Controller นี้ นอกจากจะช่วยให้การควบคุมเสียงได้จากสาย โดยไม่ต้องไปกดที่คีย์บอร์ด หรือเข้าไปในซอฟต์แวร์ รวมถึงการปิด/เปิดเสียงจากไมค์ได้อีกด้วย ลองทำความคุ้นเคย ไม่นานก็จะคุ้นชิน และสะดวกในการใช้งานมากทีเดียว แต่ที่น่าสนใจก็คือ สามารถควบคุม Chat balance กดปุ่มด้านบนขวา เมื่อต้องการให้เสียงเกมชัด ปุ่มล่างซ้าย จะช่วยเพิ่มความคมชัดให้กับเสียงสนทนา นี่คือไฮไลต์อีกอย่างหนึ่งของหูฟังรุ่นนี้

Conclusion

ในภาพรวมต้องถือว่า HyperX Cloud Alpha S เป็นพี่รอง ที่คลอดออกมา โดยใช้เทคโนโลยีบางส่วนจาก Cloud Orbit ที่เป็นตัวไฮเอนด์ แต่ราคาของ Alpha S นี้เป็นกันเอง จับต้องได้ง่ายกว่า ถ้ามองในแง่ของดีไซน์ แทบไม่ได้เปลี่ยนไปจาก Cloud Alpha ตัวเดิมมากนัก เพราะเน้นไปที่ลูกเล่นและฟังก์ชั่นที่ถูกเสริมเข้ามาแทน การสมใส่ยังคงเบาสบาย และนุ่มนวลตามสไตล์ของ HyperX Cloud การมีทางเลือกของเมมโมรีโฟมทั้งแบบผ้าและแบบหนัง ก็ช่วยให้ผู้ใช้เลือกแบบที่เหมาะกับตัวเองได้ ใส่แบบไหนสบาย ก็เลือกใช้ได้เลย เช่นเดียวกับคุณภาพเสียง ยังคงหนักแน่นและเบสจัดให้เต็มที่ โดยเฉพาะการวางปุ่มปรับเบส 3 ระดับ ไว้ที่หูฟังทั้ง 2 ด้าน ยิ่งทำให้การปรับแต่งสนุกมากขึ้น เล่นไปปรับไปก็ยังได้ สเตจของเสียงค่อนข้างกว้าง จึงเก็บรายละเอียดที่หลากหลายได้สบาย ทำให้อารมณ์การเล่นเปลี่ยนไปได้ ในการเล่นเกมรูปแบบต่างๆ ทั้ง FPS หรือแอ็คชั่นแบบ Open World นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นของ Controller Mixer ในการปรับระบบเสียง 7.1 channel ก็ยิ่งทำให้คนเล่นเกมในแนว Battle Royale หรือแอ็คชั่นชูตติ้ง ได้สามารถเช็คตำแหน่งศัตรูได้ง่ายขึ้น หรืออย่างน้อยก็ช่วยให้การเล่นมีอรรถรส ไม่ว่าจะเป็นเสียงระเบิด การเคลื่อนที่ของรถถัง ศัตรูที่เข้ามาในระยะ หรือแม้กระทั่งการใช้อาวุธ ทำให้รู้สึกตื่นเต้นไปกับเกมได้มากทีเดียว ส่วนการชมภาพยนตร์ ก็ถือว่าได้อานิสงในการใช้งานไปด้วย กับเสียงเบสแน่นๆ และการปรับระบบเสียงรอบทิศทาง คงต้องบอกว่ากับสนนราคา 3,990 บาท กับหูฟังที่สร้างความเพลิดเพลินได้ดีอย่าง HyperX Cloud Alpha S นี้ คุ้มค่าน่าใช้งาน อีกทั้งยังนำไปใช้ในโอกาสอื่นๆ ได้อีกด้วย หรือแม้กระทั่งในงานด้านมัลติมีเดียก็ตาม

 

จุดเด่น

  • ครอบหูได้เต็มใบ ใส่สบายขึ้น
  • น้ำหนักเบา เคลื่อนไหวสะดวก
  • มาพร้อม Dual chamber ให้เสียงกลางและสูงได้ชัด
  • เพิ่มตัวควบคุมเสียง บาลานซ์และระบบเสียง 7.1 channel มาด้วย
  • เก็บรายละเอียดเสียงแหลมได้ดี

ข้อสังเกต

  • ดีไซน์พื้นฐาน ไม่มีแสงไฟ LED
  • ครอบหูปรับความลาดเอียงได้ไม่เยอะ

ราคา: ประมาณ 3,990 บาท

ติดต่อ: HyperX Cloud Alpha S

 

0 Comments

แสดงความคิดเห็น

*ข้อความหรือข้อความที่แสดงในโฟส เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นในระบบโดยอัตโนมัติจากสมาชิก ซึ่งทีมงานไม่ได้มีส่วนหรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ หากพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานเพื่อดำเนินการต่อไป..