HyperX Cloud II Pro Gaming Headset หูฟังเกมมิ่งสุดมันส์ เอฟเฟกต์กระชากใจ

HyperX Cloud II Pro Gaming Headset หูฟังเกมมิ่งสุดมันส์ เอฟเฟกต์กระชากใจ

หูฟังสำหรับเกมเมอร์เรียกได้ว่าเป็นของคู่กันมานานตั้งแต่ในยุคที่เกม 3 มิติแรกๆ ได้ถือกำเนิด ด้วยเหตุที่ว่าเกมมีความสมจริงมากขึ้น เรื่องของระบบเสียงที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความมันส์ในการเล่นเกมมากยิ่งขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะได้เห็นการพัฒนาของหูฟังเกมเมอร์มาโดยตลอด จนมาถึงปัจจุบันก็มีให้เลือกอยู่มากมายหลายยี่ห้อ เช่นเดียวกับค่ายยักษ์ใหญ่ในวงการเมมโมรี ที่ได้ส่งหูฟังเกมเมอร์ตัวเก่งภายใต้ชื่อ HyperX มาให้ได้สัมผัสกัน

Kingston Hyper X Cloud 2 Review 000

HyperX Cloud II Pro Gaming Headset มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างเรียบง่าย ซึ่งก็เป็นอารมณ์เดียวตั้งแต่ Cloud ตัวแรก แต่มีกลิ่นไอของความเป็นเกมเมอร์อยู่ โดยเฉพาะการดึงเอาตัวขับเดิมที่มีขนาดใหญ่ใส่ลงไปในหูฟัง และเพิ่มในส่วนของ Sound Card สำหรับการจำลองเสียงในแบบ 7.1-channel ด้วยการต่อเข้ากับพอร์ต USB มาให้ พร้อมด้วยย่านความถี่ 15Hz-25,000 Hz บนน้ำหนักตัวที่ประมาณ 32- กรัม ซึ่งมีไมโครโฟนมาให้แบบแยกต่อได้ รวมถึงสายที่ยาวเกินเมตร หากพ่วงกับ Sound Card ที่เป็นคอนโทรลเลอร์ในตัว ซึ่งเมื่อดูภาพรวมแล้วออกไปทางหูฟังเอนเตอร์เทนเมนต์มากกว่า ด้วยทั้งขนาดและฟีเจอร์

Specification HyperX Cloud II Pro Gaming Headset :

ชุดหูฟัง

  • ประเภททรานสดิวเซอร์: Ø 53 มม. แบบไดนามิคพร้อมแม่เหล็ก Neodynium
  • หลักการทำงาน: ปิด
  • ความถี่: 15Hz-25,000 Hz
  • พิกัดความต้านทาน: 60 Ω ต่อชุด
  • SPL พิกัด: 98±3dB
  • T.H.D.: < 2%
  • ความสามารถในการรับกำลัง: 150mW
  • การติดตั้งกับหู: ปิดทั้งใบหู
  • การลดเสียงรบกวนแวดล้อม: ประมาณ 20 dBa
  • แรงดันของแถบรัดศีรษะ: 5N
  • น้ำหนัก: 320 ก.
  • น้ำหนักพร้อมไมโครโฟนและสายสัญญาณ: 350 ก.
  • ความยาวและประเภทสาย: สายพ่วง 1 + 2 ม.
  • การเชื่อมต่อ: หัวเสียบมินิสเตอริโอเดี่ยว (3.5 มม.)

ไมโครโฟน

  • ประเภททรานสดิวเซอร์: คอนเดนเซอร์ (back electret)
  • หลักการทำงาน: การกระจายแรงดัน
  • รูปแบบขั้ว: cardioid
  • แหล่งจ่ายไฟ: ระบบจ่าย AB
  • แรงดันไฟเลี้ยง: 2V
  • อัตราสิ้นเปลืองกระแส: สูงสุด 0.5 mA
  • พิกัดความต้านทาน: ≤2.2 kΩ
  • แรงดันวงจรเปิด: ที่ f = 1 kHz: 20 mV / Pa
  • ความถี่: 50-18,000 Hz
  • THD: 2% ที่ f = 1 kHz
  • SPL สูงสุด: 105dB SPL (THD ≤ 1.0% ที่ 1 KHz)
  • สัญญาณไมโครโฟนขาออก: -39±3dB
  • ความยาวบูมไมค์: 150 มม. (รวมก้านไมค์)
  • เส้นผ่านศูนย์กลางแคปซูล: Ø6
  • การเชื่อมต่อ: หัวเสียบมินิสเตอริโอเดี่ยว (3.5 มม.)

แกะกล่องดูหน้าตา HyperX Cloud II Pro Gaming Headset :

HyperX Cloud II Headset (1)

มาดูกันตั้งแต่หน้ากล่อง HyperX Cloud II นี้ ที่มาในโทนแดงตัดดำ ดูล้ำสมัย ซึ่งดูเหมือนว่าจะใช้ธีมเดียวกันหมด ไม่ว่าจะเป็น หูฟังหรือเมาส์แพด พร้อมการสกรีนรายละเอียด ฟีเจอร์ลงไปมากมาย อ่านกันจนตาลายเลยทีเดียว

HyperX Cloud II Headset (2)

ด้านข้างบอกถึงฟีเจอร์สำคัญในแต่ละส่วน ซึ่งมีการอธิบายเทคโนโลยีแบบคร่าวๆ เอาไว้ให้

HyperX Cloud II Headset (3)

ด้านหลังบอกรายละเอียด ส่วนประกอบของหูฟังรุ่นนี้ ซึ่าถ้าลองดูรายละเอียด ก็เกือบจะครบถ้วนทุกรายการ ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคที่สามารถดูรายละเอียดได้เมื่ออยู่หน้าร้าน

HyperX Cloud II Headset (4)

เมื่อเปิดกล่องนอก ก็จะมีกล่องด้านในที่เป็นกระดาษแข็งใส่เข้ามาด้วย พร้อมสกรีน HyperX ตัวใหญ่ดูเท่เลยทีเดียว

HyperX Cloud II Headset (5)

 

เมื่อเปิดภายในกล่องจะเห็นอุปกรณ์ต่างๆ อัดแน่นอยู่ภายใน ไม่ว่าจะเป็นคู่มือ หูฟัง และอื่นๆ วางอยู่พร้อมฟองน้ำปิดอย่างมิดชิด แบบนี้อุ่นใจได้ว่าขนส่งไปที่ไหนก็ปลอดภัย

HyperX Cloud II Headset (6)

ได้เวลาอัญเชิญหูฟังออกจากกล่องแล้ว อย่างที่เห็นคือ เทียบกับมือผู้ชายไซส์กลางๆ อย่างผม ก็เทียบขนาดกันว่าเป็นอย่างไร

HyperX Cloud II Headset (9)

นอกจากจตัวหูฟังแล้ว ยังมีครอบหูฟังแบบหนัง ที่ใช้สำหรับเปลี่ยนการใช้งานตามถนัด ซึ่งบางคนอาจจะชอบฟองน้ำ แต่บางคนก็ชอบสไตล์ของหนัง เรื่องนี้พิจารณากันเอง แต่ที่แน่ๆ Kingston ให้มาด้วยนะ

HyperX Cloud II Headset (8)

ไมโครโฟนคุณภาพไม่ธรรมดา ที่มากับหูฟังรุ่นนี้ พร้อมต่อเข้ากับแจ๊ค 35mm บนหูฟัง ถอดได้ไม่รบกวนการใช้งาน แต่ถ้าเกมเมอร์ที่เล่นกันเป็นกลุ่มแล้ว ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง รวมถึงรีโมตและ Sound Card ในตัว ปรับใช้กันเพลิน

HyperX Cloud II Headset (7)

รูปแบบการใช้งาน :

HyperX Cloud II Headset (10)

มาถึงการใช้งานกันบ้าง เอาที่ขนาดของหูฟังกันก่อน ด้วยน้ำหนักประมาณ 300-400 กรัม ไม่ได้เยอะสำหรับหูฟังแบบ Full size ครอบหูขนาดใหญ่ก็ทำให้ครอบได้อย่างแนบสนิทดี อีกทั้งภายในยังเป็นเมมโมรีโฟม ยิ่งทำให้กระชับและลดเสียงรบกวนภายนอกไปได้มาก แต่ก็ไม่ถึงกับเงียบกริบ เพราะตามดีไซน์ยังคงเน้นที่ความสบายในการใช้งานมากกว่า จึงมีเสียงลอดเข้ามาบ้างก็ไม่แปลก

HyperX Cloud II Headset (11)

ด้านข้างกับการออกแบบให้เหมือนเป็นลวดลายของโลหะขัด ให้ดูทันสมัย พร้อมโลโก้ที่โดดเด่นอยู่กลางทั้ง 2 ด้าน ให้ความรู้สึกดุดันเป็นพิเศษ เสียดานที่น่าจะมีแสงไฟ ให้รู้สึกเร้าใจขึ้นอีกนิด

HyperX Cloud II Headset (12)

ก้านหูฟังปรับได้ 7 ระดับให้เข้ากับศีรษะผู้ใช้มากที่สุด เลื่อนได้แบบนุ่มนวล จนบางทีก็เผลอเลื่อนติดมือเหมือนกัน เวลาจะขยับหูฟังให้กระชับขึ้น

HyperX Cloud II Headset (13)

ก้านหูฟังขยับเข้าออกได้มากพอสมควร เพื่อให้เข้ากับคนที่ศรีษะกว้าง ซึ่งแต่เดิมก้านหลักที่ครอบศรีษะด้านบนก็ง้างออกได้เยอะอยู่แล้ว

HyperX Cloud II Headset (14)

ช่องเสียบไมโครโฟนที่อยู่ด้านใต้ของหูฟังด้านซ้ายมีฝาปิดมาให้ด้วย

HyperX Cloud II Headset (15)

สายถักที่ปรับม้วนได้ตามสบาย ความยาว 1 เมตร พร้อมขั้วต่อที่แข็งแรง ป้องกันการดึงกระชาก

HyperX Cloud II Headset (16)

สกรีนด้านบน HyperX ขนาดใหญ่สีเดียวกับพื้นหนังไปด้วยเลย บางทีก็อาจจะดูเรียบไปนะ

HyperX Cloud II Headset (17)

แต่ด้านในนี่สิของชอบ เพราะใส่ฟองน้ำได้นิ่มมากๆ แทบจะไม่รบกวนศีรษะด้วยซ้ำ ด้วยความที่น้ำหนักเบาและออกแบบมาดี จึงใช้งานได้นานขึ้น

HyperX Cloud II Headset (19)

เมื่อต่อเข้ากับไมโครโฟนแล้ว ดูเท่ไม่เบา พร้อมสำหรับการใช้งานเต็มรูปแบบ เรียกว่าสื่อสารกับเพื่อนกันในการไปปาร์ตี้กันสนุกกว่าตะโกนคุยกันเยอะ

HyperX Cloud II Headset (20)

อุปกรณ์ที่เพิ่มเติมมาในกล่องด้วยนี้ เป็น Sound Card ที่เพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบเสียง 7.1-channel พร้อมเป็นรีโมตในตัว สำหรับการปรับระดับเสียงหูฟังและไมโครโฟน โดยมาในรูปแบบคลิปหนีบกับเสื้อผ้าได้ด้วย

HyperX Cloud II Headset (21)

ภาพรวมของ HyperX Cloud II Pro Gaming Headset :

HyperX Cloud II Headset (18)

ในความโดดเด่นของหูฟังรุ่นนี้ อาจจะไม่ได้หยุดอยู่ที่การเป็นหูฟังเกมมิ่งเท่านั้น แต่การเสริม USB Sound card ที่รองรับระบบเสียง 7.1-channel มาด้วยนั้น เท่ากับการก้าวไปสู่หูฟังแบบไฮไฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ได้เลย เพราะเรื่องของเสียงออกมาได้น่าประทับใจ เอาสิ่งที่เป็นเรื่องหลักอย่างการเล่นเกมกันก่อน ด้วยพื้นฐานของ Cloud รุ่นแรก ก็ถือได้ว่าให้อรรถรสในการเล่นเกมได้ดีแล้ว ยิ่งมาประกบกับ Sound card นี้ ยิ่งเติมความสนุกได้มากขึ้น โดยเฉพาะเอฟเฟกต์ที่เกิดขึ้นในเกม ดูเร้าใจ การเก็บรายละเอียดและทิศทางก็ชัดเจนยิ่งขึ้น ให้ได้รู้ทางศัตรูหรือสิ่งแวดล้อมรอบข้างได้เลยง่ายขึ้นนั่นเอง ส่วนเรื่องเสียงและความหนักแน่น ก็พอตอบโจทย์ให้คนที่ชอบแนวนี้ได้ดีพอสมควร

ส่วนในเรื่องของการชมภาพยนตร์ก็ได้รับอานิสงไปด้วยเช่นกัน เรื่องของเอฟเฟกต์ระเบิด เสียงรถยนต์หรือเสียงที่เด่นออกมาให้ระยะที่ชัดขึ้น รวมถึงรายละเอียดที่เกิดขึ้น ก็ทำให้ได้ลุ้นระทึกไปกับหนังด้วยเช่นกัน เพียงแต่ในบางมุมที่เกิดขึ้นไกลๆ บางฉากอาจจะเก็บได้ไม่หมด แต่ดูเหมือนว่าตัวขับขนาดใหญ่ในหูฟังรุ่นนี้ ก็ตอบสนองได้ดีทีเดียว แต่สำหรับคนที่จะมุ่งไปที่เรื่องของเสียงเพลง อาจจะไม่ได้ตามใจคิดนัก เพราะหลักๆ จะอยู่ที่เสียง นุ่ม ทุ้มลึกในระดับหนึ่ง การจะดึงเสียงแหลมเยอะๆ อาจจะไม่ใช่ทางของหูฟังนี้ ส่วนใครที่ชอบโวลุ่มจัดหนักๆ เวลาเล่นเกมหรือดูหนัง ดูจะเป็นของหวาน เพราะดันขึ้นไปได้เยอะ โดยไม่มีเสียงแตกให้ได้ยิน ยิ่งถ้าเบิร์นมาดีๆ ก็น่าจะมีผลอยู่ด้วยเยอะ แต่สิ่งเหล่านี้เป็นการทดลองใช้ ส่วนเรื่องของเสียงหูใครก็หูมัน อาจจะต้องไปลองดูสักครั้งว่าโดนใจขนาดไหน ได้เรื่องอย่างไร ก็มาบอกกันได้ครับ

คะแนนความน่าสนใจ : 4.5 Point

  • วัสดุครอบหูนุ่มสบายใช้งานต่อเนื่องได้นาน
  • น้ำหนักเบา
  • ให้เสียงเอฟเฟกต์ต่างๆ ได้ดี โดยเฉพาะเสียงแวดล้อมที่เกิดขึ้นรอบข้าง

จุดสังเกต

  • การออกแบบเน้นความเรียบง่ายไม่มีองค์ประกอบที่เป็นแสงสีให้เห็น
  • หนักไปทางเสียงทุ่ม แหลม กลางไม่เด่นนัก

ราคา : ประมาณ 3590 บาท

0 Comments

แสดงความคิดเห็น

*ข้อความหรือข้อความที่แสดงในโฟส เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นในระบบโดยอัตโนมัติจากสมาชิก ซึ่งทีมงานไม่ได้มีส่วนหรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ หากพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานเพื่อดำเนินการต่อไป..